คดีพลิกแรง หนุ่มทำแบงก์พันตกเกลื่อน ที่แท้เป็นพ่อค้ายาเสพติด

      คดีพลิกแรง ! หนุ่มทำแบงก์พันตกเกลื่อน ที่แท้เป็นพ่อค้ายาเสพติด เผยโดนหมายจับตั้งแต่ปี 2555 ตำรวจเรียกพบเพื่อให้การอีกครั้ง ชี้เป็นผู้ต้องหาที่ดวงซวย
 
          จากเหตุการณ์ฮือฮา เมื่อแบงก์พันหล่นเกลื่อนกลางเมืองเชียงใหม่ เมื่อวานนี้ (22 มีนาคม 2559) โดยผู้ที่ทำหล่นคือ นายวุฒิพงษ์ บุญตา อายุ 25 ปี โดยตำรวจประสานให้เข้าแจ้งความ หลังมีข่าวออกว่อนโซเชียล นอกจากนี้ตำรวจยังได้ประกาศออกสื่อให้คนที่เก็บไปนำเงินมาคืน มิฉะนั้นจะดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งนายวุฒิพงษ์ระบุว่า เบิกเงินจำนวน 4 หมื่นบาทมา เงินส่วนนี้เป็นเงินเก็บและเงินที่แม่ของตนซึ่งทำงานที่ญี่ปุ่นส่งมาให้ โดยตนเองนั้นใส่ไว้ในกระเป๋าคาดเอว ส่วนขณะนั้นตนกำลังจะนำเงินไปซื้อรถมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อยามาฮ่า SR และลืมรูดซิปกระเป๋า ทำให้เงินปลิวเกลื่อนเต็มถนน ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น [อ่านข่าว ชุลมุน คนแห่เก็บแบงก์พันปลิวเกลื่อนถนนเมืองเชียงใหม่ ทำรถติดเป็นกิโล]   


          อย่างไรก็ตาม ล่าสุด (23 มีนาคม 2559) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก ได้เรียกนายวุฒิพงษ์เข้ามาอีกครั้ง โดยตำรวจกองเมืองเชียงใหม่ สงสัยว่า นายวุฒิพงษ์เป็นผู้ต้องหาคดีครอบครองยาบ้า ซึ่งมีการออกหมายจับไว้ก่อนหน้านี้ คดีอาญาที่ 336/2555 ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และเมื่อตรวจสอบแฟ้มประวัติก็พบว่าเป็นคนเดียวกันจริง จึงทำการจับกุมตัว
          ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบพิรุธเนื่องจากผู้เสียหายไม่ยอมเข้าแจ้งความคดีเงินหาย จนกระทั่งมีข่าวออกทางโลกโซเชียล จากนั้นผู้เสียหายเพิ่งจะมาแจ้งความในตอนเย็นและให้การวกไปวนมา พอนายวุฒิพงษ์เป็นข่าว ด้านตำรวจกองเมืองก็ได้เห็นภาพของนายวุฒิพงษ์ จึงได้ประสานมาเพื่อขอรูปพรรณสัณฐานและวางแผนให้นายวุฒิพงษ์เข้ามาให้ปากคำ เพิ่มเติมในช่วงเช้าวันนี้ จนทราบว่าเป็นคนเดียวกันกับที่มีหมายจับอยู่

          ขณะที่ พ.ต.ท. นิติพันธ์ สังขกร สว.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า นายวุฒิพงษ์ต้องคดียาเสพติดและถูกออกหมายจับเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555 โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้สายติดต่อล่อซื้อยาบ้าจากนายวุฒิงพษ์ในจำนวน 20 เม็ด ราคา 2,800 บาท และนัดส่งมอบที่โรงเรียนพิมาน อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งเมื่อถึงเวลานัดนายวุฒิพงษ์ก็ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์มา โดยมี นางสาวศุภรัตน์ สุริยา ซ้อนท้าย และนำยาบ้ามาขายกับสายตรวจ จากนั้นตำรวจที่แอบซุ่มอยู่ก็เข้าทำการจับกุมทั้งคู่ แต่สองคนนั้นกลับขี่รถหนี จึงได้ขอศาลขออนุมัติหมายจับดังกล่าว 

          ส่วนทางด้าน พ.ต.ท. สิทธิพร บัวสุก รอง ผกก.สส.สภ.ช้างเผือกเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหารายนี้ถือว่าดวงซวยซ้ำซ้อน ซึ่งหลังจากที่นายวุฒิพงษ์ทำเงินตกก็กลายเป็นข่าวโซเชียลแบบไม่ได้ตั้งใจ ด้านตำรวจก็ได้ประสานให้มาแจ้งความ ตอนนั้นก็มีพิรุธต่าง ๆ ไม่ยอมมาแจ้งจนกระทั่งเย็น พอมาก็บ่ายเบี่ยงดังกล่าว

          อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีเงินตกและมีคนเก็บก็ถือว่าเป็นอีกคดี คนที่เก็บได้ต้องนำมาคืน เพราะเจ้าของไม่ได้สละสิทธิ์ ถือว่าเป็นคดีเข้าข่ายลักทรัพย์ ส่วนคดีเรื่องค้ายาก็จะต้องควบคุมตัวนายวุฒิพงษ์ไว้ และจะขยายผลเรื่องเงินต่อไปว่าเงินที่ทำตกเอาไปทำอะไรกันแน่ ส่วนเพื่อนที่นายวุฒิพงษ์อ้างว่าร่วมหุ้นกันนั้น ยังไม่พบว่ามีส่วนพัวพันกับยาเสพติด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Kitsanas Chaertongchai

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก